วันเบาหวานโลก
14 พฤศจิกายนของทุกปี คือ วันเบาหวานโลก ถูกจัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหาของโรคเบาหวาน เนื่องจากพบว่าประชากรทั่วโลกมีแนวโน้มเป็นเบาหวานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในปี พ.ศ. 2563 สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ ได้กำหนดให้มีการรณรงค์ในหัวข้อ เปลี่ยนวิกฤตเบาหวานด้วยพลังแห่งการพยาบาล (Nurses Make the Difference for Diabetes)
สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานแล้วควรต้องดูแลควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นพิเศษ วันนี้พี่เนิร์สจะมาบอกวิธีการเลือกรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ
ผู้ป่วยเบาหวาน คือ ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายมีฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอหรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลผิดปกติ
ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานจึงต้องระมัดระวังในการเลือกชนิดอาหารและควบคุมปริมาณอาหารให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้รับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป
เป้าหมายการควบคุมโรคเบาหวานของผู้เป็นเบาหวานแล้ว
- ระดับน้ำตาลก่อนมื้ออาหาร 90-130 มิลลิกรัม / เดซิลิตร
- ระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหาร 2 ชั่วโมง ให้น้อยกว่า 180 มิลลิกรัม / เดซิลิตร
- ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) น้อยกว่าหรือเท่ากับ 7%
เบาหวานเบาใจได้ เมื่อใส่ใจในเรื่องอาหารและเครื่องดื่มทุกอย่างก่อนที่จะบริโภค
Do’s อาหารที่ควรรับประทาน
- ข้าวกล้อง ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช
- ผลไม้หลากสี ไม่หวานจัด ฝรั่ง แก้วมังกร แอปเปิล ลูกแพร์ สาลี่ ส้ม ชมพู ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
- ผักใบหลากสีทุกมื้ออาหาร
Don’ts อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เค้ก คุกกี้ พาย ไอศกรีม ช็อกโกแลต ขนมหวาน
- ผลไม้หวานจัดและผลไม้แปรรูป ลำไย ทุเรียน ขนุน มะม่วงสุก ละมุด
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ สุรา
- เครื่องดื่มที่เติมน้ำตาลมาก กาแฟ ชาเย็น โอเลี้ยง น้ำหวาน น้ำผลไม้ น้ำอัดลม นมรสหวาน น้ำผึ้ง ฟรุกโตสคอร์นไซรัป
เบาหวาน สามารถควบคุมได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ด้วยการรับประทานให้ถูกหลักโภชนาการ การพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเลิกสูบบุหรี่
ที่มา : ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Responses