ภาวะไขมันพอกตับ (Fatty liver)
ภาวะไขมันพอกตับ (Fatty Liver) หรือ ภาวะไขมันเกาะตับ เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำไขมันที่รับประทานไปใช้ได้หมด จึงสะสมเป็นไขมันในรูปไตรกลีเซอไรด์ในเซลล์ตับ หากไม่รักษาอาจส่งผลให้กลายเป็นตับแข็งและมะเร็งตับได้ โดยพบได้ทุกเพศทุกวัย แต่จะพบมากในอายุ 40-50 ปีขึ้นไป ที่ประสิทธิภาพการทำงานของระบบการเผาผลาญอาหารเริ่มลดลง
สาเหตุ แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ
1.จากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ ประเภท และระยะเวลาที่ดื่ม เรียกว่า Alcoholic fatty liver
2.จากสาเหตุปัจจัยเสี่ยงอื่น
แนวทางการป้องกัน
- รับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูงเป็นประจำ เช่น แป้ง น้ำตาล ไขมัน
- มีภาวะอ้วน น้ำหนักตัวมากเกินไป ดัชนีมวลกายมากกว่า 25 (BMI > 25)
- เป็นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อไวรัส ตับอักเสบ B และไวรัสตับอักเสบ C
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ ยากลุ่มฮอร์โมน
- คนอ้วน ผู้ชายรอบเอวเกิน 40 นิ้ว / ผู้หญิง รอบเอวเกิน 35 นิ้ว
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีน้ำตาลในเลือดมากกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ผู้ที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงกกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ผู้ที่มีไขมันดี หรือ HDL ต่ำ ผู้ชาย น้อยกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ผู้หญิง น้อยกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- ขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ จึงทำให้มีการเผลาผลาญพลังงานน้อยลง
- ทานยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ และยาในกลุ่มที่เป็นฮอร์โมนทดแทน
- เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- รู้สึกไม่สบายท้อง
- น้ำหนักลดผิดปกติ ความอยากอาหารลดลง
- คลื่นไส้
- มึนงง ความสามารถในการตัดสินใจและสมาธิลดลง
- การประวัติอาการและการตรวจร่างกาย เป็นสิ่งชี้นำในการตรวจขั้นตอนต่อไป แต่ในรายที่เป็นมะเร็งตับอ่อน ระยะเริ่มแรกมักจะตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ
- การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง เป็นการตรวจเลือด ปัสสาวะ หรือเนื้อเยื่อเพื่อตรวจวัดปริมาณสารบางอย่าง เช่น สาร CA 19-9 หรือ (CEA) ซึ่งอาจมีระดับเพิ่มสูงขึ้น
- การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) เป็นการภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่จะแสดงให้เห็นตำแหน่งและขนาดของจุดเกิดโรค นอกจากนี้ยังช่วยวินิจฉัยได้ว่าโรคมีการลุกลามไปยังตับและต่อมน้ำเหลืองหรือไม่
- การตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นการถ่ายภาพคอมพิวเตอร์อีกชนิดหนึ่งที่ไม่อาศัยรังสีเอกซ์ แต่อาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยทำให้เห็นภาพของอวัยวะภายในและสามารถตรวจพบมะเร็งตับอ่อนได้ ละเอียดแม่นยำ ใช้สำหรับการติดตามรักษาโรคได้เป็นอย่างดี
แนวทางการป้องกัน
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เช่น อาหารที่มีไขมันต่ำ กากใยสูง และให้พลังงานต่ำ
- หากเป็นเบาหวานหรือไขมันในเลือดสูง ควรควบคุมโรคให้ดีด้วยการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง ควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่นอกเหนือจากที่แพทย์สั่ง
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
Post Views: 2,587