ไข้เลือดออก ภัยร้ายจาก ยุงลาย ตัวจิ๋ว
ไข้เลือดออก โรคร้ายที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ หากมีอาการหนักมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
เราควรรับมืออย่างไรให้รอดพ้นจากโรคไข้เลือดออก พี่เนิร์สมีคำตอบมาให้ทุกคนแล้วค่ะ
โรคไข้เลือดออก เกิดจากอะไร?
เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อว่าเดงกี่ (Dengue) ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ด้วยกัน โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค เมื่อยุงลายไปกัดคนที่เป็นไข้เลือดออกก็จะดูดเชื้อโรคไว้ และเพิ่มจำนวนในตัวของยุง จากนั้นยุงไปกัดคนอื่นก็จะถ่ายทอดเชื้อเดงกี่ให้ต่อไป
อาการของไข้เลือดออก
- มีไข้ ลักษณะไข้สูงลอย ทานยาแล้วไข้ไม่ค่อยลด และมีอาการปวดศีรษะขณะมีไข้
- มีเลือดออกตามอวัยวะต่าง ๆ ที่สังเกตได้ชัดเจน เช่น เลือกออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด
- อาการร่วมอื่น ๆ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
- บางรายอาจรุนแรงถึงขั้น ช็อก หมดสติ
หากลูกมีอาการของไข้เลือดออก คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกอย่างไร?
1) หากพบว่าลูกมีอาการรุนแรง ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ซึ่งได้แก่อาการ ทานอาหารไม่ได้ คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง มีเลือดออกผิดปกติ ปัสสาวะออกน้อย มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง (เช่น ซึมมากหรือร้องกวนโวยวายมากผิดปกติ) เป็นต้น
2) ถ้าลูกมีอาการไม่รุนแรง แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกที่บ้านโดยวิธีดังต่อไปนี้
ทานยาลดไข้ พาราเซตามอล เมื่อมีไข้สูง แต่ห้ามใช้แอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน เพราะอาจส่งผลให้เป็นแผลและเลือดออกในกระเพาะอาหาร
- เช็ดตัวเพื่อลดไข้
- ทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียน จิบน้ำเกลือแร่
- งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีแดง ดำ หรือน้ำตาล เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด เพราะหากเกิดอาการอาเจียน อาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่ามีเลือดปนออกมากับอาเจียน
การป้องกันโรคไข้เลือดออก
1) การป้องกันไม่ให้ยุงกัด
- นอนกางมุ้ง หรือติดมุ้งลวดในบ้าน
- ทายากันยุง
2) การกำจัดยุงลาย
- ปิดภาชนะใส่น้ำให้มิดชิด คว่ำภาชนะที่ไม่ใช้
- หมั่นเปลี่ยนน้ำในภาชนะทุก 7 วัน เช่น แจกันดอกไม้สด แจกันที่หิ้งบูชาพระ แจกันที่ศาลพระภูมิ หรือแจกันประดับตามโต๊ะ
- ฉีดพ่นสารเคมีหรือใช้สารเคมีกำจัดยุง ซึ่งต้องระมัดระวังอย่างมากในบ้านที่มีเด็กเล็กๆนะคะ
ขอเพียงทุกคนหมั่นดูแลสุขภาพตัวเอง และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย แค่นี้ก็จะปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออกแล้วค่ะ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
Responses