ดูแลเด็กอย่างไรให้ปลอดภัยจาก COVID-19
ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พ่อแม่รู้สึกกังวลต่อสุขภาพของเด็ก พี่เนิร์สเลยจะมาบอกวิธีการดูแลเด็กในช่วงโควิด-19 ให้ทุกคนทราบกันค่ะ
อาการแสดงโควิดในเด็ก
เชื้อไวรัสโควิดจะเดินทางลงไปที่ทางเดินหายใจส่วนล่าง ทำให้หลอดลมอักเสบ ปอดบวม โดยเด็กจะมีอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา เช่น มีไข้ตัวร้อน เจ็บคอ อาจมีหรือไม่มีน้ำมูก คัดจมูก แต่จะมีอาการไอแห้ง ๆ ไอรุนแรงจนถึงขั้นปอดบวม หายใจล้มเหลว
เชื้อไวรัสโควิดเข้าสู่ร่างกายเด็กได้อย่างไร?
เกิดจากการไอ จาม พูดคุย หรือสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ โดยเชื้อไวรัสนั้นสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายของเด็ก ๆ ได้ 3 ช่องทาง คือ
1. เยื่อบุตา : เด็ก ๆ อาจไปสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ ที่ติดเชื้อแล้วนำมาขยี้ตา
2. จมูก : โดยพฤติกรรมเด็กส่วนใหญ่จะชอบแคะ จับ ขยี้จมูก
3. ปาก : นำมือเข้าปาก อมของเล่น หรือใช้ภาชนะร่วมกันกับผู้ใหญ่
คุณพ่อคุณแม่จะดูแลเด็กอย่างไรให้ปลอดภัยจาก COVID-19?
- เมื่อกลับถึงบ้าน ผู้ปกครองควรอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปพบลูก
- หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร
3. เด็ก ๆ ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน โดย..
- เด็กอายุ 1-2 ปี หากใส่หน้ากากอนามัยต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแล ควรใส่หน้ากากอนามัยด้วยความระมัดระวังและใส่ในระยะเวลาสั้นที่สุด เนื่องจากเด็กอาจมีปัญหาหายใจลำบาก
- เด็กอายุมากกว่า 2 ปี สามารถใส่หน้ากากอนามัยได้ และถอดหน้ากากอนามัยออกได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด ยกเว้นเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง หรือระบบทางเดินหายใจ
- เด็กที่มีโรคประจำตัวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโรคทางระบบประสาท หรือทางเดินหายใจบกพร่องรุนแรงที่ไม่สามารถใส่หน้ากากอนามัยได้ ผู้ปกครองควรเคร่งครัดเรื่องเว้นระยะห่างกับผู้อื่น ใช้รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิดหน้า หรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดงร่วมด้วย
- เด็กควรใส่หน้ากากอนามัยที่มีขนาดพอดี คลุมจมูก ปากและคาง แต่ไม่แนะนำให้เด็กใส่หน้ากากอนามัยชนิด N 95 และหน้ากากที่ใช้ในห้องผ่าตัด เพราะจะทำให้หายใจลำบากและปอดของเด็กจะอ่อนแอลง นอกจากนี้หน้ากากที่มีสีสันหรือรูปการ์ตูนต่าง ๆ ก็ไม่ควรให้เด็กสวมใส่ เนื่องจากอาจมีการสูดดมเอาสารระเหยของสีเหล่านั้นเข้าไป
- มีอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว ไม่ใช้ภาชนะร่วมกันระหว่างคนภายในบ้าน เช่น ชาม ช้อน แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว และของใช้อื่นๆ
5. สร้างสุขอนามัยที่ดีให้ลูก เช่น ไม่นำมือมาขยี้ตา แคะจมูก หรือนำมือเข้าปาก รับประทานอาหารปรุงสุก ล้างมือบ่อย ๆ อย่างถูกวิธี
6. ดูแลสุขอนามัยของบ้าน และจัดสิ่งแวดล้อมให้ดี มีอากาศถ่ายเทสะดวก หมั่นทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ ของเล่นเด็ก และที่อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอ
7. หากเด็กมีโรคประจำตัว ควรรับประทานยาสม่ำเสมอ และดูแลปฏิบัติตนตามแพทย์สั่ง
8. สร้างภูมิต้านทานโรค โดยพาเด็กไปรับวัคซีนตามแพทย์นัด
แหล่งข้อมูล : คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, โรงพยาบาลนครธน, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
Responses